Overlord จอมมารพิชิตโลก

อนิเมะแนวต่างโลก ถูกสร้างมากจากนิยายสุฮอตมากในประเทศญี่ปุ่น

กลายเป็นอนิเมะ ที่เขียนโดย Kugane Maruyama ความโด่งดังของโด่งดังมาไกลทำให้ตัวนิยายมีแปลไทยด้วยจัดจำหน่ายที่ไทยด้วย โดย Dexpressและในส่วนของอนิเมะก็เช่นกัน ถูกสร้างขึ้นโดยสตูดิโอ Madhouse มีทั้งหมด 3 ซีซั่นและเป็นที่นิยมมากในไทยเช่นกัน วันนี้คุณไม่ต้องสมัครสมาชิกเว็บดูอนิเมะ กับเราก็สามารถดูการ์ตูน เรื่อง Overlord ได้ฟรี ไม่มีค่าสมัคร ไม่มีค่าธรรมเนียมแค่คุณมั่นใจในเน็ตของคุณ ทางเรายินดีให้บริการดูการ์ตูนออนไลน์ในคุณภาพ

การ์ตูนhd เว็บดูการ์ตูนออนไลน์ที่ดีที่สุด

โดยอนิเมะเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เกมเมอร์ท่านหนึ่งที่กำลังเล่นเกม Yggdrasil เกมแนว DMMO-RPG (Dive Massively Multiplayer Online Role Playing Game) เขามีนามว่า Ainz Ooal Gown หรือ โมมอนกะ ซึ่งวันนี้ ก็เป็นวันสุดท้ายของตัวเกมที่เขากำลังเล่นอยู่เพราะตัวเกม Yggdrasil กำลังจะปิดตัวลงในเวลาเที่ยงคืนที่จะถึงนี้นี่มันเป็นอนิเมะบนพื้นฐานชีวิตจริงแฟนคลับหลายคนเลยนี่นามาต่อกันที่เนื้อหาตัวของโมมอนกะมีร่างอวตารเป็นโครงกระดูราวกับจอมมารเขาเป็นหัวหน้าของกิลขนาดใหญ่กิลหนึ่ง โดย โมมอนกะเป็นตัวอนิเมะที่มีความผูกพันธ์กับเกม Yggdrasil นี้เป็นอย่างมากเขาจึงยังไม่อยากออกจากเกมแม้เวลาปิดตัวใกล้เข้ามาทุกที ทั้งที่ผู้เล่นคนอื่น ๆก็ออกจากเกมไปหมดแล้วเหลือตัวเขาเพียงคนเดียวแต่แล้วเมื่อถึงเวลาที่ตัวเกมควรปิดตัวเขากลับยังคงอยู่ในเกมต่อได้แม้เวลาปิดตัวเริ่มไปแล้ว แม้จะหาวิธีทางออกต่าง ๆ นา ๆก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด นั้นจึงทำให้เขาและ มหาสุสานนาซาริค อันเป็นที่ตั้งของกิลได้หลุดเข้าในต่างโลกโดยสมบูรณ์และเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นเมตาเวิร์สของเกมที่เขาชื่นชอบนั่นเอง

อนิเมะเรื่องนี้ถูกทำมาให้ดูอนิเมะออนไลน์เป็น 3 ซีซี่น ดังนี้

1. Overlord SS I โดยอนิเมะซีซั่นนี้จะเน้นพาให้เราทำความรู้จักกับโลกต่างมิติ หรือความเมตาเวิร์สที่ตัวเอกกำลังติดอยู่ ซึ่งเมื่อได้สำรวจแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่โลกของเกม Yggdrasil ที่รู้จักหากแต่เป็นโลกอื่นที่แตกต่างออกไป เนื้อหาของซีซั่นนี้จึงเป็นการที่ Ainz Ooal Gownต้องออกเดินทางเพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ และพยายามปรับตัวในโลกใหม่ที่ไม่รู้จักภาพของอนิเมะซีซั่นนี้ยังควรปรับปรุงอยู่บ้าง

2. Overlord SS II ในความอนิเมะซีซั่นนี้ทำได้ดีกว่าภาคก่อน โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ทำออกมาได้ดีกว่าซีซั่นแรกเป็นอย่างมากและสิ่งที่ยังคงเส้นคงวามาตั้งแต่ SS I คือการลำดับเนื้อเรื่องจากนิยายก็ยังคงทำออกมาได้ดี เข้าใจง่ายและในเรื่องของเพลงเปิดที่มันไม่ค่อยเท่าไหร่ใน SS I นั้น ซีซั่นนี้เพลงปิดทำออกมาได้รู้สึกชอบเอามาก ๆ ไพเราะเลยแหละ เอาซะประทับใตฟังวนอยู่สิบกว่ารอบได้ แต่โดยเนื้อหาและความเป็นอนิเมะเนื้อเรื่องยังคงมีความเนือยและสามารถใส่ความแฟนตาซีให้กับการดูการ์ตูนอนิเมะได้มากกว่านี้อีก แม้เพลงปิดจะสุดประทับใน แต่เพลงเปิดก็ยังคงเหมือนเดิมทำให้เสียอรรถรสในการดูอนิเมะ เพราะนี่ควรจะมีเพลงเป็นความประทับใจที่จะทำให้การดูการ์ตูนออนไลน์นั้นแตกต่างจากการอ่านการ์ตูนออกมาได้อย่างประทับใจมากกว่านี้ และในภาคนี้ ยังเน้นCG มากเกินไป ทำให้ภาพอนิเมะที่จินตนาการไว้ดูเละเทะไป จากความเห็นส่วนตัว
3. Overlord SS III สำหรับ ซีซั่นนี้ ให้คะแนนการดูอนิเมะ หรือดูการ์ตูน ออนไลน์ น้อยที่สุด นั่นเพราะเนื้อเรื่องที่ดรอปลงเรื่อย ๆ เอาซะ ซีซั่นนี้ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย และ CGที่ไม่สร้างความประทับเกินจะรับไหวจนกลายเป็นสิ่งที่ทำลายตัวอนิเมะเองแล้วยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของสตูโอMadhouse เองด้วย แต่ก็ยังมีข้อแก้ไขในส่วนของเพลงเปิดได้ดีมากและเพลงปิดก็ดีมากมีความหมายที่สื่อถึงความเป็น Overlord ได้ดีเลย ทำการรู้จักว่าเป็นการดูอนิเมะที่สามารถลืมการดูการ์ตูนไปได้และการลำดับเรื่องราวจากนิยายยังคงทำได้ดีแต่ต้องมาตายเพราะเรียบเรียงมาได้น่าเบื่อ ไม่มีสีสันหรือจุดพีคของการ์ตูนออนไลน์แต่ฉากต่อสู้ยังคงทำได้สวยงามและหลื่นไหล ทำให้ความเป็นอนิเมะยังคงน่าดูอยู่เช่นเดิม

ซีซั่นแรกนี้ถือว่าเป็นการเปิดฉากของอนิเมะจอมมารต่างโลกได้ดีเลย

แต่ ในเรื่องของCGซึ่งอาจจะมากเกินความจำเป็นทำให้งานภาพของอนิเมะที่ทำออกมาได้ดีต้องมากลายเป็นความปลอม ๆ หลอก ๆ มากไปหน่อย แต่ฉากที่ใช้ CG นั้นยังมีน้อยอยู่ทั้งที่เป็นการ์ตูนอนิเมะในโลกที่ควรจะเน้น CG มากกว่านี้แต่ก็ถือว่าพอรับได้ในระดับหนึ่ง และอีกอย่างคือ เพลงเปิดเรื่องอันเป็นสิ่งที่จะทำให้การดูอนิเมะ เป็นมากกว่าการอ่านการ์ตูนเพราะถือว่าเป็นตัวเปิดหน้าหนังสื่อการ์ตูนเหมือนบทนำของหนังสือเล่มนั้นเลยที่เมื่อได้เห็นก็ทำให้เราอยากรู้จักหรืออ่านมันแต่เพลงเปิดของอนิเมะเรื่องนี้ใช่ว่าจะไม่ดี จริงๆ แล้วมันค่อนข้างจะติดหูในระดับหนึ่งเลยหากแต่เป็นในเรื่องของรายชื่อทีมงานผู้สร้างนี้แหละที่ขัดใจมากมีขึ้นเต็มหน้าจอเลยภาพของเพลงเปิดที่น่าสนใจโดนรายชื่อกลบจนหมดอารมณ์เลย ดังนั้นแล้ว